สร้างเงินแสนจากการเขียนบทความ งานฟรีแลนซ์ที่ใครก็สามารถทำได้

ว่าด้วยเรื่องของอาชีพฟรีแลนซ์  ฟรีแลนซ์คืองานที่ผู้รับงานต้องมีฝีมือในการทำงานในด้านนั้นอย่างเชี่ยวชาญ แต่มีหลายคนอยากเริ่มทำงานฟรีแลนซ์แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง เพราะไม่มีฝีมือเชี่ยวชาญในด้านนั้นเลย วันนี้ผมจึงอยากมาแนะนำงานที่ใครๆก็สามารถทำได้ คือการเป็นนักเขียนบทความออนไลน์ เพราะการเขียนบทความนอกจากจะเป็นงานที่เราสามารถรับจ้างทำเพื่อสร้างรายได้ในแต่ละวันแล้ว ยังสามารถทำเป็นอาชีพสังกัดในบริษัทเอกชนต่างๆได้ แถมยังสามารถนำมาต่อยอดเป็นเว็บไซต์หรือแฟนเพจของตัวเองได้อีกด้วย มาดูกันว่า การเป็นนักเขียนสามารถหารายได้จากช่องทางใดได้บ้าง

การรับจ้างเขียนบทความ

การรับจ้างเขียนบทความเป็นอาชีพเสริมที่คนส่วนมากทำในปัจจุบัน เพราะเป็นการเริ่มต้นที่ง่าย ถ้าใครยังไม่เคยเขียนหรือไม่มีฝีมือการเขียน ก็ลองคิดลองเขียนด้วยตัวเองไปก่อน เพราะก่อนผู้ว่าจ้างจะรับซื้อบทความของเรา เขาต้องขอดูผลงานการเขียนของเราก่อนแน่นอน ถ้าผลงานหรือฝีมือเราเขียนได้โอเค เขาต้องรับซื้อบทความของเราแน่นอน ในตอนแรกๆฝีมือของเราก็อาจจะไม่ดีมากนักก็ได้ แต่ก็อย่าให้ขี้เหร่จนเกินไป จงตั้งใจเขียนบทความนั้นให้ดีที่สุด ไม่มีผู้ว่าจ้างคนไหนอยากได้งานเขียนที่ไม่มีคุณภาพหรอกนะครับ โดยอัตราค่ารับจ้างการเขียนบทความปกติเรทราคาจะอยู่ที่ 100 คำ ต่อ 10 บาท ขึ้นไป แต่ถ้าเรามีฝีมือการเขียนที่ดี หรือมีความรู้เฉพาะทางในการเขียนด้านนั้นๆโดยตรง  ราคาค่าเขียนบทความของเราก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อยู่ที่ผู้ว่าจ้างอีกทีว่าจะตั้งเรทราคาบทความให้เราเท่าไหร่ และผมอยากแนะนำให้นักเขียนทุกคนศึกษาเรื่องการเล่นคำหลักหรือคีย์เวิร์ดเอาไว้ด้วย เพราะผู้ว่าจ้างบางคนต้องการบทความ SEO เพื่อให้ติดหน้าแรกของ Google ครับ

การรับจ้างเขียนคอนเทนท์ลงแฟนเพจหรือเฟสบุ๊ค

การขายสินค้าให้ได้ดี ต้องประกอบด้วยการสร้างหน้าโปรไฟล์ของช่องทางนั้นๆได้น่าสนใจ และสิ่งที่สำคัญอันดับแรกที่จะทำให้โปรไฟล์ของแฟนเพจหรือเฟสบุ๊คน่าสนใจก็คือ การสร้างคอนเทนท์ที่ดี การเขียนหรือการสร้างคอนเทนท์ จะมีความยากในการเขียนมากกว่าการเขียนบทความปกติ เพราะจะต้องใช้การเล่นคำ การสร้างรูปแบบประโยคให้โดนใจ หรือสะดุดตาผู้อ่านเป็นอย่างมาก  อีกทั้งยังต้องมีฝีมือการทำรูปภาพให้โดนใจอีกด้วย แต่สำหรับใครที่สามารถทำงานในรูปแบบนี้ได้ ก็สามารถรับจ้างเป็นแอดมินดูแลแฟนเพจได้ งานสามารถทำที่บ้านได้อีกด้วย โดยมีรายได้ตั้งแต่หลักพันถึงหลังหมื่นกันเลยทีเดียว เพราะผู้ว่าจ้างจะต้องจ้างเราเป็นรายเดือนอยู่แล้ว โดยจะกำหนดให้เราโพสหรือหาอะไรที่น่าสนใจมาลงแฟนเพจเฟสบุ๊คทุกวัน เพื่อให้คนมากดถูกใจหรือเข้ามาซื้อสินค้าจากแฟนเพจนั้นๆ

การเขียนบทความลงบล็อกเกอร์หรือเว็บไซต์ของตัวเอง

การเป็นนักเขียนนอกจากจะรับจ้างเพื่อรับเงินจากผู้ว่าจ้างแล้ว ยังสามารถนำมาต่อยอดเพื่อสร้างรายได้ที่เป็นธุรกิจหรืองานของเราได้อีกด้วย โดยการสร้าง Blogger ขึ้นมา แล้วเขียนบทความลงบล็อกในเวลาที่เราว่าง โดยเราจะมีรายได้จากการนำโฆษณาจาก Google adsense มาติดเว็บของเรา หรือถ้าจะอัพระดับขึ้นมาหน่อย เราก็สร้างเว็บไซต์ของตัวเองขึ้นมา แต่จะมีค่าใช้จ่ายในการสร้างเว็บของตัวเองอยู่นิดหน่อย เริ่มต้นที่ประมาน 1000 ขึ้นไป แต่เราจะได้เว็บไซต์ที่สวยหรูดูมีคุณภาพเป็นของเราเอง และนำโฆษณาจาก Google adsense มาติดเว็บของเรา แค่นี้ยังไม่พอเรายังสามารถรับติดป้ายแบนเนอร์โฆษณาที่รับรายได้เป็นเดือนได้อีก รายได้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนเข้าเว็บไซต์ของเราต่อวันว่ามากหรือน้อยแค่ไหน ถ้าคนเข้าเว็บไซต์เรามาก เราก็จะได้ค่าคลิกจาก Google adsense ที่สูง และมีรายได้จากป้ายแบนเนอร์โฆษณาที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน

การเป็นนักเขียนบริษัทเอกชน

การเป็นนักเขียนในบริษัท ก็เหมือนกับการที่เราทำงานประจำ แต่เราจะมีงานหลักในการทำงานคือเขียนบทความลงสื่อสิ่งพิมพ์ในทุกวันตามที่บริษัทมอบหมายงานให้ การจะเป็นนักเขียนของบริษัทได้ เราอาจจะต้องมีฝีมือในการเขียนที่ค่อนข้างดีอยู่แล้ว งานทุกชิ้นเขาก็อยากให้ออกมามีคุณภาพในทุกงาน สำหรับใครที่รักการเขียนเป็นชีวิตจิตใจก็ลองสมัครเข้าไปทำงานดูได้ เงื่อนไขเงินเดือนก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทว่า จะให้ค่าจ้างตอบแทนในแต่ละเดือนที่เท่าไหร่

การเขียนหนังสือหรืออีบุ๊คของตัวเอง

เมื่อเรามีฝีมือการเขียนที่พอตัว หรือมีความรู้เฉพาะทางที่อยากให้คนอื่นได้รู้จากการเขียนของเรา เราก็สามารถเขียนเป็นหนังสือหรือ E-book ได้ โดยการเขียนหนังสือหรือ E-book จะมุ่งเน้นไปในการให้ความรู้เฉพาะทางเสียมากกว่า ผมเชื่อว่าในตัวคุณแต่ละคน ต้องมีหนังสืออยู่ในสมองอย่างน้อยคนละ 1 เล่ม แค่คุณลงมือมันเขียนออกมา เพื่อให้ผู้อ่านได้รับความรู้จากงานเขียนของคุณมากที่สุด ใครจะไปรู้ว่า หนังสือของคุณอาจจะเป็นหนังสือขายดีก็ได้ เรื่องรายได้ผมบอกเลยว่าคุ้มค่าเหนื่อยแน่นอน

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีพรสวรรค์ในเรื่องการเขียนบทความ ผมอยากให้ทุกคนได้ลองทำดูก่อน เพราะถ้าทำไปแล้วไปไม่รุ่งก็แค่ล้มเลิก เราไม่ได้เสียหายอะไรเลย เสียแค่เวลาในการเขียนออกมาเท่านั้น แต่ถ้าเกิดเราทำไปแล้ว ผู้คนชอบในผลงานของเรา การสร้างเงินล้านจากการเขียนบทความก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป