หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างกับคำว่า “คีโต” หลาย ๆ คนที่อยากลดน้ำหนักก็คงจะมองการทานคีโตเป็น 1 ในทางเลือก แต่การทานคีโตนั้นไม่ง่ายอย่างที่กิน ต่างจากการกินคลีนไปโดยสิ้นเชิง แต่ถ้าถามว่าลดน้ำหนักได้จริงไหม เราตอบได้เลยว่าจริง การทานคีโตจะช่วยลดน้ำหนักได้ดี และลดน้ำหนักได้ไว ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคอ้วน โรคเบาหวานก็จะใช้วิธีนี้ในการลดน้ำหนักกัน เอาเป็นว่าเราไปรู้จักกับคีโตให้มากกว่านี้กันเถอะ
คีโตคืออะไร
คีโต หรือ คีโตเจนิก ไดเอต เป็นการทานอาหารที่เน้นการทานไขมัน และ โปรตีนให้มากที่สุด และลดอาหารที่เป็นแป้งกับน้ำตาล หรือถ้าจะให้พูดจจริง ๆ คือให้งดแป้งกับน้ำตาลไปเลยจะดีที่สุด เพราะคีโตนั้นต้องเน้นไขมันดีให้มากที่สุด เพื่อที่ร่างกายจะดึงพลังงานจากไขมันมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะปกติแล้วร่างกายจะใช้พลังงานจากคาร์บ ที่ย่อยออกมาเป็นน้ำตาล และร่างการก็เอามาผลิตเป็นพลังงาน แต่เมื่อคาร์บเราน้อยลง น้ำตาลน้อยลง ร่างกายจะรีบดึงไขมันมาใช้แทน และร่างกายจะเข้าสู่โหมด คีโตซิส ทันที ซึ่งอาจจะทำให้สมองนั้นอ่อนล้า เหนื่อยง่าย แต่จะเป็นไม่นาน เนื่องจากนี่เป็นระยะแรกของการปรับตัวของร่างกาย แต่ถ้าทานไปเรื่อย ๆ ร่างกายจะชินและกลับมาเป็นปกติเอง
ไขมันของคีโตมีอะไรบ้าง
ไขมันของคีโตนั้นมี 2 ประเภทด้วยกันคือ
- ไขมันอิ่มตัว คือไขมันดีและไขมันเลว จะเจอได้ในหมู เนื้อ ไก่ น้ำมัน โยเกิร์ต กะทิ ชีส เนย เป็นต้น
- ไขมันไม่อิ่มตัว คือไขมันดี จะเจอได้ในผัก ปลา โวคาโด้ น้ำมันมะกอก น้ำมันงา ถั่วเหลือง เป็นต้น
ซึ่งทั้งสองนี้ก็เป็นไขมันที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะทานเท่าไหร่ก็ได้ การได้รับไขมันที่มากเกินไปก็ส่งผลที่ไม่ดีต่อร่างกายเช่นกัน ดังนั้นเราต้องทานคีโตอย่างมีสติ ศึกษาให้ถีถ้วน เลือกทานไขมันให้ถูกประเภทไม่งั้นระดับไขมันในเลือกอาจจะมากกว่าปกติ และเสี่ยงที่จะเกิดไขมันในเส้นเลือกอุดตันได้
เริ่มกินคีโตต้องทำอย่างไร
ถ้าใครอยากเริ่มทานคีโตเชิญทางนี้ เราจะมาแนะนำให้กับมือใหม่ทุกคนที่อยากเข้ามาทานคีโตเพื่อลดน้ำหนัก บอกได้เลยว่ายาก แต่เราต้องเข้าใจกระขวนการทำงานของคีโตก่อน แล้วการทานคีโตของเรานั้นจะส่งผลดีต่อสุขภาพและยั่งยืน
- ผู้ที่จะทานต้องทำความเข้าใจกับตัวเองและคีโต ก่อนว่า คีโตคืออะไร ต้องทานอะไร และต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพราะเราจะต้องงดคาร์บไปเลยและทานไขมันดีแทน ผู้ที่ทานต้องดูเลยว่าเราจะไหวไหม และเราไหวเท่าไหร่ พร้อมที่จะทำหรือเปล่า
- คำนวณสารอาหารที่ต้องได้รับต่อวันเมื่อเราเข้าใจแล้วว่าคีโตคืออะไรก็ต้องมานั่งดูว่าในแต่ละวันนั้นร่างกายของเราต้องได้นับไขมันมันเท่าไหร่ โปรตีนเท่าไหร่ โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราจำเป็นต้องได้รับไขมัน 75% คาร์บ 5% และโปรตีน 20% ควรหาค่า BMR และ TDEE ก่อนเข้าคีโตจะดีที่สุด เพราะเราจะคำนวณสารอาหารที่ต้องได้รับได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
- วางแผนการทานอาหารในแต่ละวันของตนเอง แน่นอนว่าการทานคีโต ไม่ให้ปนเปื้อนนั้นยากมา ถ้าจะออกไปทานตามร้านอาหารทั่วไป ผู้ที่ทานต้องวางแผนให้ดีว่าเราจะทานอย่างไรให้ปนเปื้อน้อยที่สุด ต้องทำเมนูไหนทาน หรือต้องซื้อเครื่องปรุงอะไร แต่ในสมัยนี้มีร้านทำอาหารคีโตขายเยอะมาก ใครที่ไม่อยากทำอาหารและกลัวปนเปื้อนก็สั่งทานได้เลยจะง่ายกับตัวเองมากที่สุด
ผลข้างเคียงของการกินคีโต
แน่นอนว่าการทานคีโตจะได้รับผลข้างเคียงอยู่แล้ว เพราะร่างกายนั้นต้องปรับตัวหนัก ผู้ที่เข้ามาทานควรเตรียมตัว และศึกษาผลข้างเคียงให้ดีก่อนจะดีที่สุด
- ไข้คีโต จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายเริ่มเข้าสู่โหมดคีโตซิส ร่างกายจะเหมือนคนเป็นไข้ เวียนหัว อยากอาเจียน ไม่สบายตัว แต่อาการนี้จะหายไปภายใน 2-3 วันเมื่อร่างกายคุ้นชินแล้ว แต่ถ้าเป็นเกิน 1 อาทิตย์แล้วยังไม่หาย แนะนำว่าให้ไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาจะดีกว่า
- ขาดสารอาหาร แน่นอนว่าเราจะขาดสารอาหารอย่างคาร์บ กับ น้ำตาล ไป เนื่องจากเราต้องงด บางคนอาจจะเกิดปัญหาสุขภาพตามมาถ้าททานคีโตในระยะยาว
- สมองล้า อาจจะเกิดจากการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ แต่ก็เกิดขึ้นได้น้อย ไม่ค่อยพบบ่อย
- ผิวมัน เป็นสิว บางคนอาจจะมีผมร่วงร่วมด้วย การทานไขมันเยอะ ๆ แน่นอนว่าอาจจะเกิดการกักเก็บไขมัน และอาจจะเกิดการอักเสบจากการกินไขมันบางชนิด อาจะก่อให้เกิดสิว แต่ก็แก้ไขได้ไม่ยาด ส่วนมากจะเป็นแค่ระยะเวลานึงเท่านั้น
และนี่ก็เป็นผลข้างเคียงที่คนกินคีโตจะต้องเจอ บางคนไม่มีผลข้างเคียงเลย บางคนมีน้อย บางคนมีเยอะ ผู้ที่กินคีโตต้องหมั่นสังเกตร่างกายของตัวเองให้ดี และอย่ามรามานตัวเองถ้ารู้สึกว่าไม่ไหวก็สามารถไปหาวิธีการอื่นทำได้ แต่ถ้าใครมุ่งมั่นและคิดว่าร่างกายไหวเราก็แนะนำให้กินคีโต ดูแลสุขภาพของตนเองให้ดี และหุ่นสวย ๆ จะตามมาในเร็ววันอย่างแน่นอน